มาทำความรู้จัก สาย LAN กัน

สาย LAN มีกี่แบบ ?

ในระบบ LAN จะมีสายอยู่ 3 แบบหลักๆ ที่ใช้ในการเชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์ กับ ระบบ Network คือ

Copper Twisted Pair 

Coaxial Cable 

Fiber Cable 

 หน้าที่ของสายทั้ง 3 ชนิดนี้ แตกต่างกัน สาย Coaxial Cable และ Fiber Cable จะเป็นสายที่ ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตลากจากตู้เครือข่ายเข้าโมเด็มเราเตอร์ในบ้านของเรา และสาย Copper Twisted Pair ก็คือ สายที่เราใช้เชื่อมต่อระหว่างคอมพิวเตอร์กับโมเด็มเราเตอร์หรือที่เรียกติดปากว่า สาย LAN นั่นเอง

* แต่ในปัจจุบันนิยมใช้ เทคโนโลยีใยแก้วนำแสง (Fiber Optic) เข้ามาแทนที่ ข้อดี คือ ส่งสัญญาณแสงได้ในระยะทางไกลการสูญเสียสัญญาณต่ำ และสามารถส่งข้อมูลได้ในขนาดมากๆ (Bandwidth) และไม่มีผลกระทบกับคลื่นสัญญาณรบกวนทางไฟฟ้า

มาตรฐานของสาย LAN

เมื่อเราไปเลือกซื้อสาย LAN เราจะพบว่าสาย LAN จะมีฉลากกำกับเอาไว้ด้วยว่าเป็นสายประเภทอะไร อย่างเช่น "CAT 5", "CAT 5E", "CAT 8" ฯลฯ เลขเหล่านี้ คือ เลขที่จะบอกให้เราทราบว่ามันเป็นสาย LAN ประเภทอะไร  โดย CAT ย่อมาจากคำว่า CATegory ที่แปลว่า ประเภท

สาย CAT 3 และ CAT 5

ปัจจุบันนี้ สาย CAT 3 และ CAT 5 กลายเป็นของตกยุคไปแล้ว เราอาจจะเจอสาย CAT 5 อยู่บ้าง แต่มันช้าเกินไปสำหรับยุคนี้ ดังนั้นข้ามสายมาตรฐานนี้ไปได้เลยCAT 3 และ CAT 5

สาย CAT 5e

โดยตัว E มาจากคำว่า ปรับปรุง  Enhanced แต่สายแลนแบบ CAT5 และ CAT 5e ไม่ได้แตกต่างมากในการผลิต เพียงแต่ ในการผลิตสายแลน CAT 5e จะมีการควบคุมการผลิตอย่างรัดกุมกว่า เพื่อควบคุมสัญญาณให้คงที่ที่สุด

ด้วยสายแลน CAT 5e เป็นที่นิยมใช้งานกันอย่างแพร่หลาย เนื่องจากต้นทุนในการผลิตค่อนข้างต่ำ และมาในความเร็วที่ 1000 Mbps /1 Gbps

สาย CAT 6

ตัวแบนด์วิช ของสายแลน CAT 6 จะสูงกว่าสายแลน CAT 5e มาก ได้ถึง 250 MHz (ซึ่งสายแลนแบบ CAT 5eทำได้เพียง 100MHz) ความยาวของสายอยู่ที่ 100 เมตรที่ทำความเร็วสูงได้ 10 Gbps ได้ความยาวถึง 55 เมตร

สาย CAT 6a

สายแลน CAT 6a เป็นอีกสายแลนที่เป็นที่นิยมน่าสนใจ ที่มีโปรโตคอล A/V ในตัว และรองรับการใช้งานแบบ HDMI ได้อีกด้วย

โดยสายแลน CAT 6a กับ CAT 6 ต่างกันตรงที่ตัวแบนด์วิชจะเพิ่มมา 500 MHz และในตัวสายก็ยังมีฉนวนช่วยลดปัญหาสัญญาณรบกวน ทำให้มีความเสถียรค่อนข้างสูง

สาย CAT 6e

หลังจากที่ CAT 6 เปิดตัวได้ไม่นาน ก็มีสายแลนเพิ่มมาตรฐานมาอย่างสายแลน CAT 6e มาต่อเลย โดยมีจุดประสงค์แบบเดียว สายแลน CAT 5e (ควบคุมการผลิตอย่างรัดกุมกว่า เพื่อควบคุมสัญญาณให้คงที่ที่สุด)

สาย CAT 7 และ CAT 7a

        มาตรฐานของ CAT 7 /CAT 7a ค่อนข้างพิเศษตรงที่ CAT มาตรฐานอื่นๆ ในกลุ่ม ANSI/TIA แต่ CAT 7 / CAT 7a รับรอง ISO/IEC
สายแลน CAT 7 เป็นสายแลนรุ่นแรกที่มาในความเร็ว 10 Gbps ที่ความยาวสายได้ 100 เมตร ที่แบนด์วิชสูงถึง 600 MHz ที่สูงกว่า CAT 6 

       ถึงสายแลน CAT 7 / CAT 7a จะดูดี แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยมใช้กันมากนัก จากตรงที่สาย CAT 7 ต้องเชื่อมต่อแบบ GG-45 หรือ TERA แต่จากสายแลนแบบปกติที่เราเห็นนั้น จะเป็นหัว RJ-45 (8P8C)

สาย CAT 8
      สายแลน CAT 8 ที่ทำความเร็วได้ถึง 40 Gbps ที่มีแบนด์วิชได้ถึง 2000 MHz ตัวนี้เร็วกว่ารุ่นก่อนหน้าอย่างมาก แต่มีข้อจำกัดสายความยาว 30-36 เมตร เท่านั้น

สายชนิดนี้เหมาะสำหรับใช้ใน Data Center โดยที่ระยะห่างของ Switches และ Servers 

ทริคในการเลือก สายแลน (LAN)
 

• ตรวจสอบเช็คว่าสายมีแบบชีลด์ (STP) หรือแบบไม่มีชีลด์ (UTP) 

   สายแบบ STP คือสายที่ฉนวนหุ้มอยู่ด้านในสายเสริมขึ้นมาเพื่อป้องกันสัญญาณรบกวนจากคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (EMI) หรือ คลื่นความถี่วิทยุ (RFI)
 

• ตรวจสอบมาตรฐาน อย่างชนิดของสาย Category 5e (CAT 5e)Category6 (CAT 6)หรือCategory 6a (CAT 6a)
  
• เช็คสี ความยาวของสายแลนและเส้นผ่านศูนย์กลางเพื่อให้วิเคราะห์ว่าเหมาะจะนำรุ่นตัวไหนไปใช้งาน
  
• ตรวจสอบระยะการใช้งานก่อน เลือกชนิดของ สาย LAN (ความยาวของสายมีผลต่อความเร็วแบนด์วิชของสาย)

 Cr.https://personet.co.th/cat5-cat6-cat7-cat8-difference/

     https://personetshop.com/history-of-ethernet-lan-cables-categories/

     https://tips.thaiware.com/1409.html